ขนมหม้อแกง!! สูตรโบราณ โรยหอมเจียวและฝอยทอง!!

กรุณาใส่ซับเฮด

 

เซย์ฮายย! สวัสดีค่า พบกันเช่นเคย กับเจ่เจ๊แสนซนคนสวย นี่เลยวันนี้พิกัดอยู่ที่ ตลาดอัมพวา พร้อมกันรึยังค้า ขอเสียงหน่อยย วุ้วว พร้อมแล้ว บุกเลยค่า อย่าให้เสีย โกวๆ

1

จากเมืองท่าค้าขายคึกคักในอดีต อัมพวา พ.ศ.นี้กลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กยอดฮิตของชาวกรุงเทพฯ ที่กระหายวันหยุดพักผ่อนใกล้ๆขับรถไม่กี่ชั่วโมงก็ถึงชุมชนริมน้ำที่ยังคงมีเสน่ห์ ห้องแถวไม้เก่าถูกปรับปรุงใหม่ให้ฟื้นคืนมามีชีวิตชีวาอีกครั้งประตูบานเฟี้ยมที่เคยปิดสนิทถูกเปิดอ้าต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาโดยรถแทนเรือ คุณยาย-คุณป้าจับมือกันเคาะตะหลิวติดเตาทำขนมไทยโบราณหาทานได้ยาก ภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างกะลา ใบมะพร้าวสานถูกนำเสนอใหม่ในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ที่ยังมีชีวิต…

2

ขนมไทยของร้าน บ้านขนมไทยในวรรณคดี แห่งนี้เป็นร้านขนมไทยที่อนุรักษ์ขนมไทยแบบดั้งเดิมเอาไว้ โดยเน้นสามส่วนผสมหลักอย่างแป้ง กะทิ และน้ำตาลมะพร้าว ของขึ้นชื่อของอัมพวา ทำให้ขนมไทยร้านนี้ โดดเด่นทั้งรสชาติและความประณีตสวยงาม ตามขนบวิธีที่ทำมาแต่โบราณ และที่ไม่เหมือนใครน่าจะเป็นขนมเรไร ที่หาทานยาก และไม่ค่อยได้เห็นตามร้านขนมไทยทั่วไป ร้านนี้มีการสาธิตวิธีทำขนมอยู่ตลอดเวลา จึงมักจะเห็นนักท่องเที่ยวแวะชมกันอย่างสนใจ อื้อหืออ ประวัติดีมากก

3

จากเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยผ่านไป ได้กลิ่นหอมๆทนไม่ได้ต้องจัดสิค้ะ! ขนมหม้อแกงอบร้อนๆจากเตาโรยด้วยหอมเจียวแล้วโปะทับด้วยฝอยทอง ทานตอนกำลังอุ่นๆเนื้อนุ่มๆ หอมกะทิหอมเครื่อง ออกหวานกำลังดี ขอบอกว่าซื้อขนมแถมถ้วยตราไก่ ราคาก็ไม่แพง คุ้มเกิ๊นนนนนนจย้า

4

ส่วนใครที่แวะมาชมของหวานแล้วเริ่มรู้สึกไม่ไหว พาลให้โหยหาอาหารอร่อยๆ มาเติมกระเพาะ ก็เพียงเดินลัดเลาะออกไปยังตลาดน้ำอัมพวาที่คุ้นเคย ก็จะได้อิ่มท้อง และอย่าลืมที่จะซื้อของฝากรสเลิศกลับบ้าน ถือเป็นการจบทริปอิ่มหมีพีมัน ณ อัมพวาอย่างสมบูรณ์แบบ

สำหรับวันนี้เจ่เจ๊ขอตัวลาไปก่อน อิ่มอร่อยเมนูหน้าจะเป็นอะไร ฝากติดตามด้วยคร่า..บ๊ายบายย

 

ขนมหม้อแกงกลุ่มอนุรักษ์ขนมไทยในวรรณคดีรัชกาลที่ 2

ราคา    : 35 บาท

สถานที่ : กลุ่มอนุรักษ์ขนมไทยในวรรณคดีรัชกาลที่ 2 ฝั่งตรงข้ามอัมพวาพัฒนานุรักษ์ เลียบสะพานรถวิ่ง ตลาดน้ำอัมพวา สมุทรสงคราม

WiFi    : ไม่มี WiFi

เวลา : 09.00 – 20.00 (Open on Fri.-Sun. and National Holiday only)

ที่จอดรถ : มีที่จอดรถก่อนเข้าตลาดน้ำ(เสียค่าบริการ)

 

ที่มา Facebook Page : Starvingtime เรื่องกินเรื่องใหญ่